ใบ ผลตรวจเอดส์ การตีความผลตรวจ เอดส์ AIDS (Acquired Immunodeficiency Syndrome) หลายคนคงทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า โรคเอดส์เป็นภาวะป่วยในขั้นสุดท้ายของการติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้เข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว
จนทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายมีความบกพร่องจนไม่สามารถต่อสู้หรือกำจัดเชื้อที่เข้าไปสู่ร่างกายได้ จึงทำให้ร่างกายเกิดการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ง่าย และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตลงในที่สุด

ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ การรักษาในทุกวันนี้ คือ การทานยาต้านไวรัส ที่จะช่วยในการลดการเจริญเติบโตของเชื้อ ยับยั้งการเพิ่มจำนวน ลดอัตราการเสียชีวิตลงด้วยโรคเอดส์

ดังนั้น หากผู้ที่รู้ตัวว่าตนเองกำลังมีความเสี่ยงการเข้ารับการตรวจตั้งแต่เริ่มแรก อาจจะช่วยไม่ให้การติดเชื้อเอชไอวีนั้นลุกลามไปสู่ระยะเอดส์ได้

 

ปัจจุบัน คนไม่น้อย ที่เดินทาง ไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี ตามโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน หรือตามคลินิก ที่รับตรวจหา โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คนทั่วไป ส่วนใหญ่ มักจะไม่เข้าใจในใบผลตรวจ ที่ทางแพทย์ได้ให้มา

โดยรายละเอียดต่าง ๆ ที่แสดงใน ใบ ผลตรวจเอดส์ จะบ่งบอก ถึงสถานะร่างกาย ของผู้ตรวจ การแปลผลต่าง ๆ อาจทำให้ ใครหลายคน ไม่เข้าใจว่าตนเอง นั้นติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อ เพราะ การตรวจ ในแต่ละรูปแบบ ก็อาจจะมี วิธีการแปลผล ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น

สิ่งที่ตรวจหา

– Anti-HIV (stat) : Negative แปลว่า การตรวจภูมิคุ้มกันเอชไอวีแบบทันที ซึ่งเท่ากับได้ผลลบ หรือไม่มีการติดเชื้อ ยกเว้นแต่ว่าพึ่งไปได้รับเชื้อมา จึงทำให้ตรวจไม่เจอเพราะร่างกายอาจจะยังไม่ทันสร้างภูมิคุ้มกัน หรืออยู่ในช่วงของระยะฟักตัว (window period)

เทคนิคการตรวจ

– ECLIA หมายถึง การตรวจคัดกรองเป็นการตรวจด้วยเทคนิค ECLIA โดยย่อมาจาก Electrochemiluminescence Immunoassey หรือบางครั้งเรียกว่า 4 Generation ซึ่งแปลได้ว่า การตรวจคัดกรองเชื้อเอดส์ด้วยการควบสองวิธีเข้าด้วยกัน คือ
o การตรวจภูมิคุ้มกัน (antibody) ซึ่งต้องรอให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาก่อนจึงจะตรวจพบเชื้อ
o ECLIA เป็นการตรวจหาไวรัสตัวเป็น ๆ ซึ่งจะพบเชื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องรอระยะฟักตัว (window period) เพราะหากใช้เทคนิค ECLIA จะสามารถร่น ระยะ window period เหลือประมาณ 28 วันเท่านั้น

ผลการตรวจ

– Non-reactive หรือ Negative แปลว่า ไม่มีการติดเชื้อ ผลเป็นลบ
– Reactive หรือ Positive แปลว่า มีการติดเชื้อ ผลเป็นบวก
– Invalid แปลว่า ไม่สามารถแปลผลได้ การตรวจไม่ถูกต้อง

หากผลตรวจออกมาเป็น Invalid จะต้องมีการตรวจอีกครั้ง เพื่อหาผลที่ชัดเจน

และหาก ผลตรวจออกมาเป็น Non-reactive หรือ Negative อาจจะเป็นเพราะว่า ตรวจในช่วงระยะเวลา ที่ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อเอชไอวี ยังมีปริมาณไม่มากพอ พึ่งเริ่มสร้าง หรือยังไม่ทันสร้าง ซึ่งโอกาส ที่จะเป็นเช่นนี้ น้อยมาก หากให้ข้อมูล กับแพทย์อย่างถูกต้อง เพราะแพทย์จะสอบถามระยะเวลา ที่ได้รับความเสี่ยง และเลือกวิธีการตรวจ ให้อย่างเหมาะสมก่อน เข้ารับการตรวจ

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี การเข้ารับการตรวจอาจเป็นช่องทางที่จะช่วยคลายความกังวลใจให้คุณได้

 

สำหรับ ผู้ที่ไม่กล้าเดินทาง ไปตรวจตามโรงพยาบาล หรือคลินิก ปัจจุบันก็ได้ มีชุดตรวจหาเชื้อเอชไอวี ด้วยตนเอง วางจำหน่าย เพื่อเป็นทางออกให้แก่ ผู้ที่มีความเสี่ยง ให้สามารถตรวจคัดกรองด้วยตนเองก่อนได้

โดย ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง มีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน สามารถรู้ผลได้ภายในเวลา 15-20 นาที แต่การใช้ชุดตรวจนี้ เป็นเพียง การตรวจเพื่อคัดกรอง เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ว่าผล จะออกมา เป็นอย่างไร ก็ให้ทำ การตรวจซ้ำอีกครั้ง

ในระยะเวลาต่อมา เพื่อรีเช็คผล การตรวจว่าตรงกัน หรือไม่ หรือ ตรวจอีกครั้งที่ 3 เดือน หลังจากได้รับความเสี่ยง ก็จะช่วย ให้สามารถสบายใจได้ มากขึ้น และมั่นใจได้แน่นอน

 

HIV ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หากได้รับความเสี่ยงมา อย่าปล่อยปัญหาไว้ ตรวจให้เคลียร์ เพื่อความมั่นใจในการใช้ชีวิต

 

อินสติ ชุดตรวจhiv