การตรวจเชื้อเอชไอวี ตรวจจากสิ่งใดจึงจะทราบว่าผู้สงสัยป่วยเป็นเอดส์

การเข้ารับ การตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV) หรือเอดส์ (AIDS) ในสมัยปัจจุบันนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ เพราะเพียงแค่เดินเข้าไปในโรงพยาบาล

ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้แล้ว โดยเฉพาะในโรงพยาบาลรัฐ ที่มีบริการตรวจหาเชื้อเอชไอวีฟรี โดยสามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง

แต่ทางสถานพยาบาลเอกชนอาจมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละสถานพยาบาล

 

การเข้ารับ การตรวจหาเชื้อเอชไอวี เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะเชื้อเอชไอวีเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ที่ถือว่ามีความร้ายแรงเป็นอย่างมาก หากร่างกายของเราได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว เชื้อก็จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว

จนส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันนั้นบกพร่อง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย

 

และหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันเวลา เชื้อเอชไอวีอาจพัฒนาไปสู่โรคเอดส์ได้ อย่างไรก็ตาม การตรวจเชื้อเอชไอวี ตรวจจากสิ่งใดจึงจะทราบว่าผู้สงสัยป่วยเป็นเอดส์

ในปัจจุบันนี้มีวิธีการตรวจหาเชื้อหลัก ๆ เลย ที่ทั่วโลกใช้ คือ การตรวจจากตัวอย่างเลือด นอกจากนี้ยังมีการตรวจจากน้ำลาย ซึ่งยังไม่ได้เป็นที่นิยม

 

 

เอชไอวี หรือเอดส์ในปัจจุบันนั้น จะสามารถทำได้ 3 วิธีด้วยกัน คือ

– Anti-HIV antibody เป็นวิธีการตรวจหาภูมิต้านของเชื้อเอชไอวี (HIV) จากเลือด ซึ่งจะวินิจฉัยจากการทำงานของระบบภูมิต้านทานภายในเซลล์เม็ดเลือดขาว

ที่มีการต้านทานต่อเชื้อเอชไอวี วิธีการนี้จะสามารถตรวจพบเชื้อเอชไอวีได้ในระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือนหลังการติดเชื้อ

– NAT (Nucleic Acid Testing) เป็นการตรวจหา สารพันธุกรรม ของเชื้อเอชไอวี ด้วยการ ตรวจปริมาณ ของเชื้อ และตรวจ การทำงาน ของระบบภูมิคุ้มกัน ภายใน ร่างกาย

โดยวิธีการตรวจนี้ แพทย์มักใช้ ในกรณีที่ ผู้ป่วยมี ความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อสูง เนื่องจากเป็น วิธีที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ในการตรวจ

สามารถ ตรวจพบเชื้อได้ใน 1-4 สัปดาห์ หลังการติดเชื้อ แต่ทั้งนี้ ก็ถือว่า เป็นวิธีการตรวจ ที่มีค่าใช้จ่าย ที่ค่อนข้างสูง พอสมควร

และปัจจุบัน จะใช้ตรวจ กับผู้ที่ มาบริจาคเลือด

– PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นเทคนิค การตรวจหาสารพันธุกรรม ในระดับ อณูชีวโมเลกุล ซึ่งสามารถ ตรวจได้ ในเด็กทารก ที่มีความเสี่ยง

ต่อการ ติดเชื้อ จากมารดาตั้งแต่ 1 เดือน และใช้ตรวจกับผู้ใหญ่ หลังได้รับ ความเสี่ยงมาแล้ว 14 วันขึ้นไป

 

 

การตรวจเอชไอวีนั้น ไม่ได้น่ากลัว อย่างที่คิด สำหรับใคร ที่ยังมี ความกังวลใจ หลังได้รับ ความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อมา การเข้ารับ การตรวจ

เป็นวิธีเดียว ที่จะทำให้เรารู้ว่า ร่างกาย ของเราติดเชื้อ หรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันนี้ สำหรับใคร ที่ไม่สะดวก เดินทางไป ตรวจตามโรงพยาบาล

สามารถ หาซื้อ ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง มาทำการ ตรวจคัดกรอง เบื้องต้นด้วยตนเอง ได้แล้ววันนี้ นอกจาก จะสะดวกสบาย

ตรวจที่ไหน เวลาไหน ก็ได้ ชุดตรวจHIV ยังใช้งานง่าย สามารถรู้ผลตรวจได้ใน 15-20 นาที

 

การตรวจหา เชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ เรารู้ทัน สถานะเลือด ของตนเอง หากผลเป็นบวก ก็จะสามารถ ช่วยให้เราได้ เข้ารับ การรักษา

และรับยาต้าน ได้อย่างท่วงที เพื่อป้องกัน การแพร่กระจาย เชื้อไวรัสเอชไอวี ไปสู่ บุคคลอื่น และเพื่อช่วย ให้เราได้ ใช้ชีวิต อยู่ร่วมกันกับคน ในสังคม

ได้โดย ที่ไม่จำเป็น ต้องมา นั่งกังวลว่า จะแพร่กระจายเชื้อ หรือไม่ แถมยัง ช่วยป้องกัน ไม่ให้เชื้อเอชไอวี พัฒนาไปสู่ ระยะโรคเอดส์ ได้อีกด้วย

ดังนั้น รู้ก่อน ตรวจก่อน เพื่อความ ปลอดภัย ของตนเอง