ตรวจเอดส์ต้องรอกี่เดือน ปัจจุบันนี้การเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV) นับเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ สำหรับใครหลายคน เพราะเนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากการที่คนส่วนใหญ่ไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย หรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ ซึ่งหากใครที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะอยู่ในกลุ่มคนที่เสี่ยงของการติดเชื้อ โรคเอชไอวีนั้น เป็นสาเหตุหลักของการเป็นโรคเอดส์ เพราะหากร่างกายของเราได้รับเชื้อเอชไอวีเข้าไปแล้ว เชื้อจะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว (CD4) และระบบภูมิคุ้มกันให้เกิดการบกพร่อง ทำให้ผู้ป่วยมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอ สามารถเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย เพราะเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำการต้านทานต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เข้าไปสู่ร่างกายได้

 

ดังนั้น หากผู้ที่กำลัง มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ไม่เข้ารับการตรวจให้ทราบผลโดยเร็ว หากติดเชื้อจริงโดยที่ไม่รู้ตัว และไม่มีการเข้ารับการรักษา เชื้อเอชไอวีอาจมีการพัฒนาไปสู่ระยะเอดส์ได้ และส่งผลให้คนส่วนใหญ่ มักจะเสียชีวิตลงด้วยระยะเอดส์

 

อย่างไรก็ตาม วิธีการตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ สามารถทำได้ 3 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน คือ

 

– การตรวจแบบ Anti-HIV วิธีการตรวจนี้ จะเป็นวิธีการตรวจหาภูมิคุ้นกัน ที่มีต่อเชื้อ ซึ่งจะสามารถตรวจพบได้หลัง ไปได้รับเชื้อมาแล้วตั้งแต่ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป

– การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Technology) วิธีการตรวจนี้ จะเป็นวิธีการตรวจหาพันธุกรรม ของเชื้อเอชไอวี ซึ่งสามารถตรวจพบเชื้อ ได้หลังเสี่ยง ประมาณ 5-7 วันขึ้นไป ในปัจจุบัน ทางสภากาชาดไทย ได้เปิดให้บริการตรวจ ด้วยวิธีนี้

หากเข้ารับ การตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือ เอดส์ด้วยวิธีแรก แล้วไม่พบเชื้อ

– การตรวจแบบ PCR วิธีนี้ เป็นวิธี การตรวจหาสารพันธุกรรม ในตัวเชื้อเอชไอวี ซึ่งสามารถ ตรวจพบเชื้อ ได้หลังเสี่ยงตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป

 

นอกจากนี้ยังมี การตรวจแบบคัดกรอง โดยเป็นการตรวจหา Anti-HIV สามารถตรวจพบ ได้หลังไปได้รับเชื้อมาแล้ว ตั้งแต่ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป และยังมีอีกวิธี คือ ชุดตรวจแบบ Forth Generation เพราะเป็นการตรวจ ที่สามารถ ทำการตรวจ ได้ทั้ง (Antibody) และ (Antigen) สามารถตรวจพบ ได้หลัง ไปได้รับเชื้อมาแล้ว ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ เป็นต้นไป

 

ตรวจเอดส์ ต้องรอกี่เดือน ? การเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ ในสมัยก่อน เราจำเป็น ที่จะต้องรอ ให้เชื้อผ่าน ช่วงเวลาของระยะฟักตัว หรือที่เรียกว่า Window period ไปก่อน

แต่ว่าในปัจจุบันนี้ มีการพัฒนา วิธีตรวจต่าง ๆ ทำให้ ตรวจได้ ในระยะที่เร็วขึ้น และไม่ต้องกังวล Window period หากตรวจ ในเวลาที่เหมาะสม ก็สามารถมั่นใจได้

 

อีกทั้ง ระยะเวลาที่ จะสามารถตรวจพบเชื้อ ได้นั้น ก็ขึ้นอยู่ กับวิธีการตรวจ ด้วยเช่นกัน เช่น การตรวจแบบ NAT จะสามารถตรวจพบเชื้อ หลังได้รับ ความเสี่ยงมาเกิน 7 วัน

แต่หากตรวจ ด้วยวิธีการตรวจหา Antibody ก็จะสามารถ ตรวจพบเชื้อหลังได้รับ ความเสี่ยงมาเกิน 21-30 วันขึ้นไป ดังนั้น หากถามว่า ตรวจเอดส์ต้องรอกี่เดือน ก็ขึ้นอยู่กับว่า ใช้วิธีการตรวจใด

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ การตรวจหาเชื้อ เอชไอวี หรือเอดส์ สามารถ ทำได้ ด้วยตนเอง ที่บ้าน เพราะทาง อย. ได้ทำการ ปลดล็อค ให้ชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเอง เพื่อเป็น ทางออก ให้กับผู้ ที่มีความเสี่ยง ได้ตรวจคัดกรองด้วยตนเอง เพราะหากตรวจ พบเชื้อ ตั้งแต่ระยะแรก ก็มีโอกาส ในการรักษาให้หายได้

ทั้งนี้ การใช้ชุดตรวจเอชไอวี ด้วยตนเอง เป็นเพียง การตรวจคัดกรอง เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ว่าผลตรวจ จะออกมาเป็นบวก หรือเป็นลบ ก็ให้ทำการตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อเป็น การเช็คผลตรวจที่แน่ชัด